ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว
ชีวิตมั่งคั่งด้วยกระเป๋าสตางค์ใบเดียว
เขียนโดย คะเมะดะ จุนอิชิโร
สำนักพิมพ์ WE LEARN
มี 4บท 154 หน้า
หมาวดหนังสือ ธุรกิจ
ราคาตามปก 150 บาท
1.ราคากระเป๋าตังค์ x 200 = รายได้ต่อปีของผู้ใช้กระเป๋าใบนั้นเอง
ประมาณว่าราคากระเป๋าจะได้เป็นเหมือนกำลังทรัพย์ที่เรากล้าที่ใช้จ่ายเพื่อของที่สำคัญ แต่ถ้าใครไม่ตรงตามกฎข้อนี้ ก็ข้อให้มองไปในอนาคตและลองซื้อกระเป๋าดีๆราคาโดนๆ เพื่อเป็นเป้าหมายของเรา
2. ซื้อของไม่ให้ขาดทุน
เวลาซื้ออะไรก็ให้ควรซื้อของดีๆ เพราะเวลามีของดีราคาแพงเราก็จะดูและรักษาและไม่ซื้อมันบ่อย และเมื่อเวลาเราขายเป็นมือสองมันก็ยังคงมีราคาอยู่ ทำให้เราไม่ขาดทุนหรือเสียตังค์ซื้อบ่อยๆกับของที่ไม่ดี
3.เงิน ช่วยให้เรามีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าเรามีเงินมากหรือน้อย แต่ขอให้มีเงินอย่างเท่าที่เราต้องการ โดยการเก็บเงินแบบมีเป้าหมายไม่ใช่เพราะต้องการเก็บ..แบบไม่มีเป้าหมาย และไม่ตกเป็นทาส "เงิน" กังวลเรื่องจำนวณเงิน จนลืมนึกถึงวิธีการเงิน และเมื่อวันที่เรามีเงินพอใช้อย่างพอใจ เราก็จะได้ไม่ต้องมาบีบบังคับใจตัวเองเพราะกรอบของเงินที่มีจำกัด
เขียนโดย คะเมะดะ จุนอิชิโร
สำนักพิมพ์ WE LEARN
มี 4บท 154 หน้า
หมาวดหนังสือ ธุรกิจ
ราคาตามปก 150 บาท
หนังสือที่บอกเล่าวิธีการรักษาเงินและให้จะพาเราเปลี่ยนมุมมองของกระเป๋าตังค์ให้มีเงินไหลเข้ามา...
ที่จริงคำว่า เปลี่ยนกระเป๋าตังค์เพื่อให้มีเงินเข้ามา ในหนังสือเล่มนี้บอกไว้โดยให้เราเปรียบเทียบหรือใส่ใจกับสิ่งมีเป็นที่พักเงินมากกว่า ซึ่งกระเป๋าตังค์ก็คือสิ่งที่มีเงินเข้าๆออกๆบ่อยที่สุด ทำให้เขาสังเกตุและถามกับผู้บริหารโตๆที่เข้าได้พบเจอ(คนแต่งหนังสือ ทำอาชีพนักบัญชี) และเขาก็ได้เจอกฎที่ว่า.... หลายๆอย่างที่เขียนไว้ในหนังสือ แต่ที่ผมโดนใจก็ เช่น
ที่จริงคำว่า เปลี่ยนกระเป๋าตังค์เพื่อให้มีเงินเข้ามา ในหนังสือเล่มนี้บอกไว้โดยให้เราเปรียบเทียบหรือใส่ใจกับสิ่งมีเป็นที่พักเงินมากกว่า ซึ่งกระเป๋าตังค์ก็คือสิ่งที่มีเงินเข้าๆออกๆบ่อยที่สุด ทำให้เขาสังเกตุและถามกับผู้บริหารโตๆที่เข้าได้พบเจอ(คนแต่งหนังสือ ทำอาชีพนักบัญชี) และเขาก็ได้เจอกฎที่ว่า.... หลายๆอย่างที่เขียนไว้ในหนังสือ แต่ที่ผมโดนใจก็ เช่น
1.ราคากระเป๋าตังค์ x 200 = รายได้ต่อปีของผู้ใช้กระเป๋าใบนั้นเอง
ประมาณว่าราคากระเป๋าจะได้เป็นเหมือนกำลังทรัพย์ที่เรากล้าที่ใช้จ่ายเพื่อของที่สำคัญ แต่ถ้าใครไม่ตรงตามกฎข้อนี้ ก็ข้อให้มองไปในอนาคตและลองซื้อกระเป๋าดีๆราคาโดนๆ เพื่อเป็นเป้าหมายของเรา
2. ซื้อของไม่ให้ขาดทุน
เวลาซื้ออะไรก็ให้ควรซื้อของดีๆ เพราะเวลามีของดีราคาแพงเราก็จะดูและรักษาและไม่ซื้อมันบ่อย และเมื่อเวลาเราขายเป็นมือสองมันก็ยังคงมีราคาอยู่ ทำให้เราไม่ขาดทุนหรือเสียตังค์ซื้อบ่อยๆกับของที่ไม่ดี
3.เงิน ช่วยให้เรามีทางเลือกในชีวิตมากขึ้น
ไม่ใช่ว่าเรามีเงินมากหรือน้อย แต่ขอให้มีเงินอย่างเท่าที่เราต้องการ โดยการเก็บเงินแบบมีเป้าหมายไม่ใช่เพราะต้องการเก็บ..แบบไม่มีเป้าหมาย และไม่ตกเป็นทาส "เงิน" กังวลเรื่องจำนวณเงิน จนลืมนึกถึงวิธีการเงิน และเมื่อวันที่เรามีเงินพอใช้อย่างพอใจ เราก็จะได้ไม่ต้องมาบีบบังคับใจตัวเองเพราะกรอบของเงินที่มีจำกัด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น